72. ความเคารพตน
ธรรมเทสนา ชุด โอวาทหลังปาติโมกข์
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
กิริยาที่เราทำนั้นเป็นการเคารพตนเอง คนอื่นเขาจะว่าอย่างไรก็ตาม แต่ความเคารพมันมีอยู่ในตัวของตน
๗๒. ความเคารพตน
วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๓๒
บวชเข้ามาอยู่ด้วยกัน มีโอกาสจะต้องตักเตือนซึ่งกันและกัน ให้มันถูกต้อง ปรองดองซึ่งกันและกัน ความประพฤติปฏิบัติของเราที่ต่างคนต่างอยู่ต่างปฏิบัติ ต่างคนประพฤติย่อมแตกต่างกันไป ห่างกันยิ่งไกลกันออกไป เมื่อได้สมาคมกันแล้วเป็นการดีมาก พระพุทธเจ้าทรงเทศนาสอนว่า สมาคมกันนั้นเป็นการดีที่สุด ต้องให้มองเห็นในกันและกัน คนเราเป็นพระมาแล้วที่จะให้ปรองดองสามัคคีต่อกัน ต้องมี หิริ ความละอายแก่ใจ โอตตัปปะ ความกลัวบาป ความเกรงบาปในใจ ๒ ข้อนี้เป็นการสำคัญที่สุดอยู่ในหมู่คณะ อย่าเข้าใจว่าไม่มีใครดูเรา แท้ที่จริงนั้นมันให้อยู่ในสายตาของคนทั้งหมด
พระเราต้องมี หิริ ความละอายแก่ใจ โอตตัปปะ ความเกรงกลัวบาปในใจ ให้คิดว่าเราทุกคนที่มาอยู่ร่วมกัน มันต้องมีคนมอง โดยส่วนมากคนเรามองแต่ความชั่วความดีไม่ค่อยจะมอง ความชั่วมันเห็นง่าย ความดีมันเห็นได้ยาก อาการกิริยาใดๆที่มันผิดแปลกจาก “ธรรมวินัย” ผิดแปลกจากหมู่จากคณะ ผิด “ขนบธรรมเนียม” ของหมู่เพื่อน ควรระวังอันนั้น ควรจะคิดนึกว่า คนอื่นจะมองเห็นเราอยู่เสมอ อย่าไปเข้าใจว่า คนอื่นไม่มองเห็น แต่ตรงกันข้ามบางคนถ้าหากว่าได้ทำอาการกิริยาใดๆลงไปผิดแปลกจากธรรมวินัย หรือผิดแปลกจากหมู่จากคณะ อากัปกิริยานั้นๆเข้าใจว่าเป็นของโก้ อยากอวดเพื่อน อยากทำตัวให้เด่น เป็นของปรากฏแก่หมู่คณะ นั่นเรียกว่าไม่สมควรกระทำโดยแท้ เป็นการอวดความชั่วของตน มันไม่งามน่าละอาย
ถ้าหากคิดว่าเขามองตัวอยู่เสมอ ก็ต้องมีการระมัดระวังการกระทำตัว กิริยามารยาททุกประการ ทำดีทุกเมื่อ ทำดีแล้วอยากจะทำดีให้ยิ่งๆขึ้นไป ไม่ใช่ทำดีเพื่ออวดเพื่อน ทำดีเพื่อตัวเอง รักษาความดีเพื่อตัวเอง อันนั้นเรียกว่าคนปฏิบัติ เรียกว่าคนระมัดระวังตนโดยเฉพาะ เหตุนั้นอยู่กับหมู่กับเพื่อนเป็นการดีที่สุดถ้าหากว่ามีสติระวังตัวทุกเมื่อ กิริยามารยาทอาการใดๆ เรารู้จักด้วยใจของตนเอง รู้จักภายในของตนเอง เราพิจารณาเฉพาะตนเอง ครั้นหากว่ามันผิดแปลก มันต้องรู้ตัว ควรระมัดระวัง ควรละอายหมู่เพื่อน อันนั้นเป็นการดีมาก การเข้าหมู่เข้าคณะตรงนี้แหละเป็นการสำคัญที่สุด ที่เราจะดีได้ก็เพราะตรงเหตุนี้แหละ ครั้นหากว่ามีสติทุกเมื่อ มีจิตใจเป็นสมาธิภาวนาตั้งมั่น เห็นกิริยามารยาทของตนตลอดเวลา นั้นได้ชื่อว่า เรารักษาตนดี
จะพูดให้ฟังสักหน่อยเรื่องแจกอาหาร การแจกอาหารนั้นเป็นมารยาทอันหนึ่งซึ่งเราแสดงต่อหมู่ต่อคณะ แต่แท้ที่จริงแล้วมันแสดงต่อตนเอง ไม่ใช่แสดงต่อคนอื่น กระทำด้วยความเคารพคารวะ อย่าไปแจกอาหารอย่างธรรมดา ที่เห็นว่าการแจกอาหารเป็นเรื่องธรรมดา ไม่ใช่ มันเป็นกิจวัตรอันหนึ่งเหมือนกัน เป็นข้อวัตรอันหนึ่ง แจกด้วยความเคารพ แจกด้วยความคารวะ ทานด้วยความเคารพ ทานด้วยความคารวะ ไม่ใช่เคารพคนอื่น เคารพเราเอง กิริยาที่เราทำนั้นเป็นการเคารพตนเอง คนอื่นเขาจะว่าอย่างไรก็ตาม แต่ความเคารพมันมีอยู่ในตัวของตน ไม่ใช่แจกอย่างประมาทเลินเล่อ เราแสดงความอ่อนน้อมเคารพ
ธรรมวินัยอยู่ใกล้ๆนี่ อยู่ไม่ไกลเราหรอก เราอยู่ใกล้ๆเห็นใกล้ๆนี่ ความประมาทจะเกิดขึ้นก็ตรงนี้แหละ จะเกิดความเคารพคารวะก็ตรงนี้แหละ แต่ละคนให้มีความเคารพเฉพาะตน อย่างนี้แหละ เป็นต้น คอยระมัดระวัง
ถ้าหากว่ามีสติระวังตัวทุกเมื่อ กิริยามารยาทอาการใดๆ เรารู้จักด้วยใจของตนเอง รู้จักภายในของตนเอง เราพิจารณาเฉพาะตนเอง
[จบ โอวาทหลังปาติโมกข์ 72. ความเคารพตน]