63. สิ่งที่รวม
ธรรมเทสนา ชุด โอวาทหลังปาติโมกข์
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
…มายหลายอย่างหลายเรื่อง หมดที่ความตาย สิ้นสุดที่ความตาย ครั้นว่าพิจารณาเห็นอย่างนี้แล้ว มันก็วาง จิตมันก็รวมลงไปได้
๖๓. สิ่งที่รวม
วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๓๑
วันนี้จะเทศน์ “สิ่งที่รวม” สิ่งทั้งปวงหมดมันต้องมีการรวม ธรรมะก็เหมือนกัน ทางโลกก็เหมือนกัน ทางโลกครั้นรวมได้ก็กลายเป็นธรรม ครั้นรวมไม่ได้ก็ไม่กลายเป็นธรรมอย่างคนเราเกิดขึ้นมาต้องมีการกระทำ ทางกายก็ดี ทางวาจาก็ดี ทางใจก็ดี ต้องมีการกระทำ ทางกายนั้นมากมายหลวงหลาย เรียกว่ากายกรรม ประกอบการงานอาชีพทุกสิ่งทุกส่วน นั่นกระทำทางกาย ทางวาจานั่นก็พูดไปไม่หยุดไม่หย่อนวันหนึ่งๆไม่ทราบกี่ร้อยกี่พันคำ เราไม่ได้จดจำสักที ว่ามันมากน้อยสักเท่าไร เรียกวจีกรรม ส่วนใจคิดนึกยิ่งไปใหญ่ มันไม่มีที่สิ้นที่สุด แม้แต่นอนอยู่ก็ฝัน ฝันไปตามความคิด ความนึก ความส่งส่าย นั่งอยู่ก็ส่งส่าย ยืนเดินส่งส่ายทั้งนั้น นอนส่งส่ายมากกว่าเพื่อน เรียกว่ามโนกรรม ไม่มีหยุดรวมลงไปได้ นั่นเป็นเรื่องโลกทั้งหมด ที่มันรวมลงไม่ได้
ครั้นหากรวมลงไปได้ ที่เราเคยทำทางกายด้วยการกระทำประการต่างๆ ทำดี ทำชั่ว ทำหยาบ ทำละเอียด รู้จักเลือกกลั่นกรองสิ่งที่เราทำลงไป มันเป็นไปเพื่อประโยชน์ตนเพื่อประโยชน์คนอื่น มันเป็นไปเพื่อความสุขความสบาย หรือมันเป็นไปเพื่อโทษทุกข์ สิ่งต่างๆทั้งปวงหมดมารวมลงไปได้ว่า อ้อ! อันนั้นเป็นทุกข์ อันนั้นเป็นไปเพื่อประโยชน์ตนเพื่อประโยชน์คนอื่น อันนี้เป็นประโยชน์ทั้งชาตินี้และชาติหน้ารวมลงไปได้ก็หมดเรื่อง ก็หยุดเท่านั้นแหละ ไม่ต้องคิดนึกมาก พิจารณาแต่สิ่งที่เป็นประโยชน์ตนและประโยชน์คนอื่น
เพราะเราเกิดขึ้นมาก็หวังความสุขทุกคน ที่เราทำด้วยกายก็หวังความสุขประโยชน์ตนทั้งนั้น ที่หวังประโยชน์คนอื่นไม่จริง พิจารณาให้ถี่ถ้วนเถิดประโยชน์ตนทั้งนั้นแหละ อย่างเขารักลูกรักหลานก็รักเพื่อตนนั่นแหละ เพื่อให้ความสุขแก่ตนถูกต้องตามความประสงค์ของตน อันนั้นแหละเรียกว่าประโยชน์ตน การทำมาหาเลี้ยงชีพเพื่อคนอื่นก็ประโยชน์ตนอีก คนอื่นมีความสุขสบาย เจ้าของก็สบายใจนั่นแหละเพื่อประโยชน์ตนนั่นรวบรวมลงไปได้ว่าเพื่อความสุขของตนฝ่ายเดียวอันนั้นจึงว่ารวมลงไปได้ ครั้นรวบรวมลงไปได้แล้วมันกันหมดเรื่อง
ครั้นถ้าประกอบด้วยวาจา เราพูดอยู่ตลอดวันยังค่ำคืนยังรุ่ง ไม่ซ้ำคำเก่าบางทีก็ช้ำคำเก่าแต่ว่าลืมเสีย ไม่ทราบว่าพูดอะไรต่ออะไร วกไปกลับมา พูดเพื่ออะไร? เพื่อเข้าหาประโยชน์ส่วนตัวเหมือนกัน พูดไปร้อยแปดพันประการ เพื่อประโยชน์ความสุข เพื่อประโยชน์ความต้องการของเรา พูดเป็นประโยชน์แก่ตน พูดให้ความสุขความสบายแก่ตนพูดกระทบกระแทก พูดเหยียดหยาม พูดดูถูกคนอื่นเพื่อให้เขาไม่สบายใจ ก็เพื่อความสบายใจของตน เพื่อถูกใจของตน อันนั้นแหละพูดอยู่วันยังค่ำคืนยังรุ่ง ถ้ารวบรวมลงไปแล้ว ก็ เพื่อประโยชน์ตนทั้งนั้น
ความคิดภายในใจก็เหมือนกัน ร้อยแปดพันประการ คิดไป คิดไปเมื่อไม่รู้จักตนคิดเพลินไปหลงลืมไป ไม่เข้าตนสักที อันนั้นก็เพื่อประโยชน์ตนเหมือนกัน เพื่อถูกต้องตามประสงค์ของตน
กาย วาจา ใจ ถ้าหากไม่มีการรวม มันเพลิดเพลินลุ่มหลงมัวเมาไปด้วยประการต่างๆร้อยแปดพันประการ อันนั้นเรื่องโลก ครั้นย้อนกลับคืนมาพิจารณาอย่างที่ว่านี้ รวมลงไปแล้วก็ เป็นธรรม พิจารณาโลกก็เป็นธรรม ไม่ใช่อื่นไกลคือว่ารวมได้นั่นเอง รวมได้ก็เป็นธรรม แล้วมันหยุด ไม่คิดนึกสิ่งอื่นต่อไป นิ่งแน่วอยู่กับที่
คนเราเกิดมาต้องมีที่สิ้นสุด คือต้องมีความตาย ทุกๆคนนั้นเกิดมาไม่ตายไม่มี พิจารณาไป พิจารณาไป ความแก่ ความชรา ความทรุดโทรม เปลี่ยนสภาพไปโดยลำดับ บางที แก่เฒ่าจึงค่อยตาย บางทียังไม่แก่ไม่เฒ่า ก็เจ็บป่วยไม่สบายตายระหว่างครึ่งกลางก็มี ตายแล้วของพรรค์นั้นทิ้งหมด อันที่คิดนึกมากมาย พูดมากมาย แล้วก็ทำมากมายหลายอย่างหลายเรื่อง หมดที่ความตาย สิ้นสุดที่ความตาย ครั้นว่าพิจารณาเห็นอย่างนี้แล้ว มันก็วาง จิตมันก็รวมลงไปได้ เราพยายามที่จะรวมลงให้มันถึงธรรมะ สิ่งที่เราพูด สิ่งที่เราทำ สิ่งที่เราคิด มันรวมลงมาถึงความตายทั้งหมด
เรารักษาจิตที่เป็นกลาง จิตที่เป็นหนึ่ง รักษาตัวของตนไม่ให้วุ่นวายส่งส่าย เมื่อเราสงบในชาตินี้ในเมื่อมีชีวิตอยู่ เมื่อตายไปแล้วก็ต้องสงบ ให้รู้จักรักษาตน รักษาความสุขของตน แสวงหาความสุข ให้รู้จักความสุขของตนอยู่โดยอย่างนี้ จึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติเอาตนรอด เป็นผู้ปฏิบัติหาความสุขสงบ ไม่วุ่นวายส่งส่าย เห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเป็นของ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา จิตรวมเป็นหนึ่งลงไปได้ เอาละ เท่านั้นละ
รวมลงไปแล้วก็ เป็นธรรม พิจารณาโลกก็เป็นธรรม ไม่ใช่อื่นไกลคือว่ารวมได้นั่นเอง รวมได้ก็เป็นธรรม แล้วมันหยุด
[จบ โอวาทหลังปาติโมกข์ 63. สิ่งที่รวม]