08. ตั้งอารมณ์ให้ถูก

ธรรมเทสนา ชุด โอวาทหลังปาติโมกข์
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี

ตั้งจิตเราให้ตรง ทำจิตเราให้แน่วแน่ ทำจิตให้เป็นกลาง ทำจิตให้มันวางเฉย อันนั้นเรียกว่า อารมณ์มันถูก อันนั้นเรียกว่า อารมณ์ที่ดี

๘. ตั้งอารมณ์ให้ถูก
วันที่ n/a พ.ศ. ๒๕๒๖

ให้เราตั้งสติอารมณ์ให้ดี อารมณ์ที่ตั้งให้ดีนั้นหมายความถึงตั้งไว้ในที่ชอบ อารมณ์ที่เราจะพึงใช้ จะพึงตั้งสติกำหนดนั้นตั้งให้มันถูก อารมณ์อันใดที่มันแส่ส่าย อารมณ์ที่ไปหาความชั่ว อันนั้นละอารมณ์ไม่ดี อารมณ์อันใดที่มันตั้งมั่นอยู่เฉพาะกัมมัฎฐาน อันนั้นละอารมณ์อันถูกต้องของเรา กัมมัฎฐานถูกหมดทุกอย่าง เมื่อตั้งอารมณ์ตรงแล้ว ทำจิตเราให้ตรง ทำจิตให้แน่วแน่ ทำจิตให้เป็นกลาง ทำจิตให้มันวางเฉย อันนั้นเรียกว่าอารมณ์มันถูก อันนั้นเรียกว่า ตั้งอารมณ์ที่ดี เราต้องวางทุกวิถีทาง

เมื่อยังมีชีวิตอยู่ มันก็จะต้องมีอารมณ์ที่ไม่ดีไม่งามพานแผ้วไป มันเห็นด้วยตา ได้ยินด้วยหู ได้ดมกลิ่นด้วยจมูก ฯลฯ อายตนะทั้ง ๖ นี่มันรบกวนอยู่เสมอ อายตนะทั้ง ๖ มันแส่ส่ายไปในทางที่ไม่ดี มันเป็นวิสัยของโลก มันเป็นอยู่อย่างนั้น เราจะต้องตั้งอารมณ์ให้ดี ตั้งอารมณ์ให้ตรงว่าเวลานี้จะประกอบกิจทางพุทธศาสนา ตั้งให้มันตรงอย่าให้มันแส่ส่ายไปในทางที่ผิด ในทางที่ไม่ชอบ เพราะเราทำความเพียร เราต้องพยายามทุกวิถีทาง จึงจะได้ชื่อว่ามาประกอบความเพียร บางทีได้มาประกอบความเพียรสักแต่ว่าชื่อ ความเพียรคืออะไร? ก็ไม่รู้เรื่องความเพียร ที่เราเพียรพยามยาม คือ เพียร ตั้งอารมณ์ให้มันตรงนั้นเอง จิตใจมันฝักใฝ่ไปในทางที่เลว จิตใจมันน้อมเหนี่ยวไปในทางที่ไม่ดีไม่งาม เราจึงต้องหัดต้องอบรม ต้องหัดทำสมาธิคือ ความเพียรให้มันตรงไปตรงมา

มาคิดถึงสภาวะของพระ ที่เราเป็นพระเป็นเณร คือว่า สมณะ นั้นก็แปลว่า ผู้สงบ สงบจากอารมณ์ทั้งปวง ไม่คนองด้วยกาย วาจา ใจ เราน้อมไปในทางที่ผิดน้อมไปในทางที่ไม่ดี น้อมไปในทางเลวทรามอันต่ำช้า อันนั้นไม่ถูกทางของเรา ให้คิดนึกได้อยู่เสมอว่า ไม่ใช่สมณะ ไม่ใช่พระ ถ้าเป็นสมณะเป็นพระแล้ว จิตใจมันแน่วแน่มันตรงไปทางธรรม แน่วแน่สู่ธรรมะ เรามาเพียรภาวนาก็เพื่ออบรมตรงนี้ละไม่ต้องอบรมอื่นไกลหรอก เมื่อเราตั้งอารมณ์ให้ดีแล้ว มันเป็นไปเองหรอกคราวนี้ เมื่อตั้งถูกแล้วมันเป็นเองสิ่งทั้งปวงหมดมันค่อยเกิดขึ้นมาโดยลำดับ

ครั้นตั้งอารมณ์ผิด สิ่งทั้งปวงมันก็เป็นเองเหมือนกัน ครั้นว่าผิดเบื้องต้นแล้วก็ผิดตลอดเวลา อารมณ์ชั่วสารพัดทุกสิ่งทุกอย่างมันมาปรากฎอยู่ในใจ ไม่ดีเลยสักอย่างเดียว ถ้าตั้งอารมณ์ดีแล้ว มันค่อยสงบเยือกเย็นลงไป สติควบคุมอยู่ รู้ตัวอยู่ทุกเมื่อ หัดสติตัวนี้ให้มันมั่นคงถาวร ในชั่วชีวิตของเรานั้นไม่นานหรอก มาถึงแค่นี้แล้ว เรียกว่าชีวิตอบรมฝึกฝนมา จนป่านนี้แล้ว ให้พยายามอบรมให้มันตลอดรอดฝั่ง เสียดายที่เราอบรมมา อย่าไปละทิ้งหรือปล่อยวางเสีย อย่างนั้นมันไม่ได้ ให้มันรู้จักที่ได้ ให้มันรู้จักที่เสีย รู้จักตรงนี้แหละ

ที่มันได้นั้นคือ อบรมตั้งสติให้มันตรงแน่วแน่ อบรมจิตให้มันแน่วแน่สติควบคุมมันอยู่คงที่ เราตั้งอารมณ์ตรงแล้วหรือยังเดี๋ยวนี้ ให้ระลึกถึงเสมอ สติของเราควบคุมให้ได้ตลอดเวลาหรือยังเดี๋ยวนี้ เราตั้งสติอารมณ์ให้มันแน่วแน่แล้วควบคุมจิต ฝึกหัดอบรมไป เท่านี้ล่ะฝึกฝนอบรมเท่านี้ มันได้เวลาหรือยัง มันได้ความสงบ มันได้สมาธิ มันเป็นธรรมะ มีโอกาสได้เห็นธรรมะช้าหรือเร็ว เป็นไปโดยเรียบร้อยหรือไม่ อันนั้นเห็นความได้ ความเกิดความมีของตนขึ้นมา

ถ้าหากว่าตั้งสติตั้งจิต อบรมจิตตั้งอารมณ์ไม่ดีอารมณ์ไม่ตรง มันก็แปรปรวนไปในสิ่งต่างๆ ตั้งสติควบคุมมันก็ไม่อยู่ อันนั้นมันเหลวไหล ไปทุกเมื่อทุกยาม ทุกเวล่ำเวลาอย่างนั้นไม่ได้ อันนั้นใช้ไม่ได้ เราจึงควรระวังตัวของตน ให้หมั่นสอบฝึกฝนอบรมอยู่ตลอดเวลา หากว่ามันเป็นไปในทางเจริญก้าวหน้า ก็จะเห็นธรรมเกิดขึ้นมาในที่นั้น ถ้ามันไม่มีธรรมะเกิดขึ้นในที่นั้น มีแต่เหลวไหล แปลว่าเหลวไหลแล้วนั่น มันเสื่อมแล้ว ต้องพยายามเอาใหม่ทำใหม่ หัดตรงนี้ล่ะให้มันเข้าใจ มันได้แค่ไหน มันเจริญคล่องแคล่วแล้วเพียงไหน ตรงไหน ให้รู้ตัวตรงนี้จนเห็นที่ได้ที่ดี เห็นที่ได้ที่เสีย ถ้าหากมันได้ก็เจริญงอกงามขึ้นมา ธรรมะก็ปรากฏ ถ้ามันเสียมันก็เหลวไหล อันนั้นแปลว่าขาดทุน ไม่ต้องพิจารณาอื่นไกล ไม่ต้องอบรมที่อื่นที่ไกล เอาเท่านั้นก็พอ

[จบ โอวาทหลังปาติโมกข์ 08. ตั้งอารมณ์ให้ถูก]